แรงสะเทือนจากค่าเงินบาทอ่อน อิทธิพลที่ซ่อนอยู่ต่อผู้ประกอบการไทย
สัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทของไทยได้อ่อนค่าลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลายธุรกิจที่ต้องพึ่งพานำเข้ามีต้นทุนสูงขึ้นทันตา อุตสาหกรรมที่เน้นวัสดุหรือส่วนประกอบจากต่างประเทศเริ่มเผชิญความกดดัน แม้ขณะเดียวกันผู้ส่งออกหลายรายจะได้รับประโยชน์ แต่ความได้เปรียบนี้ก็ปะปนกับความท้าทายเรื่องความผันผวนทางการเงินที่ส่งผลกระทบลูกโซ่อย่างรวดเร็ว
ผู้บริโภคกับราคาสินค้าที่ขยับตัวขึ้น
เมื่อค่าเงินตกต่ำ ราคาสินค้าโดยเฉพาะของนำเข้าไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ หรือวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมต่างก็มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ผลกระทบนี้แผ่ขยายถึงผู้ประกอบการรายย่อยที่จำเป็นต้องปรับราคาขายปลีก ซึ่งสุดท้ายผู้บริโภคคือกลุ่มที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้มากที่สุด สิ่งนี้กลายเป็นโจทย์สำคัญของการวางแผนงบประมาณครัวเรือนในปีนี้
อีกด้านหนึ่งของเหรียญ: ไทยกับโอกาสส่งออก
อย่างไรก็ตาม สำหรับธุรกิจส่งออก ค่าเงินบาทที่อ่อนลงถือเป็นโอกาสทอง เนื่องจากสินค้าส่งออกจะมีราคาที่แข่งขันได้ดีขึ้นในตลาดโลก นี่อาจเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยควรเร่งขยายฐานลูกค้าต่างประเทศ รวมถึงพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการโลก เปลี่ยนวิกฤตค่าเงินให้เป็นโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่
บทเรียนของธุรกิจไทยกับการบริหารความเสี่ยง
เหตุการณ์ค่าเงินที่ผันผวนในครั้งนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของการวางแผนรองรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน นักธุรกิจมืออาชีพจำนวนมากหันมาใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงพร้อมมองหาทางเลือกเชิงกลยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นการกระจายแหล่งนำเข้าหรือหาทางปรับสายการผลิตให้ใช้องค์ประกอบภายในประเทศมากขึ้น การปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์เช่นนี้จึงกลายเป็นกุญแจสู่ความมั่นคงในระยะยาว
ท้ายที่สุด ความผันผวนของตลาดการเงินตอกย้ำว่าเศรษฐกิจไทยต้องพึ่งพากลยุทธ์บริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ การเรียนรู้จากวิกฤตนี้ ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อเอาตัวรอดในระยะสั้น แต่คือการผลักดันวิสัยทัศน์ใหม่ให้ธุรกิจไทยเดินไปได้อย่างมั่นคงในยุคที่อะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว