#รู้สิทธิ์รู้กฎหมาย #siamthaiuknews #ชุมชนไทยuk #ชีวิตในอังกฤษ #คนไทยในอังกฤษ
การยกเลิกกฎหมายคนจรจัดในอังกฤษ: จุดเปลี่ยนสำคัญหลังผ่านมากว่า 200 ปี
วันที่ 10 มิถุนายน 2568 รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศยกเลิกพระราชบัญญัติคนจรจัด (Vagrancy Act) ค.ศ. 1824 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ทำให้การนอนข้างถนนและการขอทานเป็นอาชญากรรมในอังกฤษและเวลส์มานานกว่า 200 ปี องค์กรด้านคนไร้บ้านต่างชื่นชมว่านี่คือ “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์” ที่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงทางนโยบายจากการลงโทษผู้ไร้บ้าน ไปสู่การให้ความช่วยเหลือและสร้างโอกาสในการกลับเข้าสู่สังคมอย่างมีศักดิ์ศรี
พระราชบัญญัติคนจรจัด 1824: กฎหมายแห่งการตีตราที่ตกยุค
กฎหมายนี้ถูกประกาศใช้ในยุคหลังสงครามนโปเลียนเพื่อจัดการกับทหารตกงานที่กลายเป็นคนจรจัด แต่ตลอด 200 ปีที่ผ่านมา มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้คนไร้บ้านถูกตราหน้าว่าเป็นอาชญากร แมตต์ ดาวนี แห่งองค์กร Crisis ระบุว่า “การยกเลิกกฎหมายนี้เป็นการคืนศักดิ์ศรีให้กับผู้คนที่เคยถูกลงโทษเพียงเพราะไม่มีที่อยู่” สถิติระหว่างปี 2013-2023 มีผู้ถูกดำเนินคดีกว่า 12,000 รายภายใต้กฎหมายฉบับนี้
ผลกระทบเชิงลบของกฎหมายต่อการเข้าถึงความช่วยเหลือ
บทลงโทษตามกฎหมายคนจรจัด ไม่เพียงไม่ช่วยแก้ปัญหา แต่กลับซ้ำเติม โดยผู้ไร้บ้านจำนวนมากหลีกเลี่ยงการติดต่อหน่วยงานช่วยเหลือเพราะกลัวการถูกจับหรือปรับ เอ็มมา แฮดแดด แห่ง St Mungo’s กล่าวชัดว่า “เราต้องหยุดโทษผู้ประสบปัญหา และหันมาแก้ที่ต้นเหตุ เช่น สุขภาพ ที่อยู่อาศัย และปัจจัยทางสังคม”
วิกฤติคนไร้บ้านในอังกฤษที่พุ่งสูงเกินคาด
ปี 2024 มีผู้ที่นอนข้างถนนในอังกฤษกว่า 4,667 ราย เพิ่มขึ้น 164% จากปี 2010 เฉพาะในลอนดอน ตัวเลขล่าสุดจาก CHAIN ชี้ว่าในไตรมาสแรกปี 2025 มีผู้ไร้บ้านถึง 4,427 คน เพิ่มจากปีก่อนถึงเกือบ 8% พร้อมกับจำนวนครัวเรือนที่อยู่ในที่พักชั่วคราวถึง 123,000 ครัวเรือน รวมเด็กกว่า 160,000 คน ตัวเลขนี้สะท้อนความล้มเหลวเชิงระบบในระดับนโยบาย
รากเหง้าของวิกฤติ: ไม่ใช่แค่เรื่องที่อยู่อาศัย
ต้นเหตุของการไร้บ้านในสหราชอาณาจักรนั้นซับซ้อนกว่าที่คิด ตั้งแต่การขาดแคลนที่อยู่อาศัยราคาถูก การขับไล่โดยไม่ต้องแจ้งเหตุ (No-fault evictions) จนถึงปัญหาส่วนบุคคลอย่างสุขภาพจิต ความรุนแรงในครอบครัว หรือการใช้สารเสพติด ซึ่งหลายอย่างต้องการการแก้ไขเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่การจับกุมหรือลงโทษ
คำมั่นของรัฐบาล: งบช่วยเหลือ 233 ล้านปอนด์ และบ้านใหม่ 1.5 ล้านหลัง
รัฐบาลแรงงานวางแผนยุติกฎหมายคนจรจัดภายในฤดูใบไม้ผลิ 2026 พร้อมงบสนับสนุน 233 ล้านปอนด์ สำหรับบริการช่วยเหลือผู้ไร้บ้าน และออกกฎหมายใหม่ที่มุ่งเน้นการจัดการ “อาชญากรรมจริง” เช่น การแสวงประโยชน์จากการขอทานแบบเป็นขบวนการ โดยยังตั้งเป้าสร้างบ้านใหม่ 1.5 ล้านหลัง โดยเน้น “ที่อยู่อาศัยสังคม” เพื่อลดแรงกดดันจากค่าเช่าภาคเอกชน
ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: ยกเลิกกฎหมายไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
แม้การยกเลิกกฎหมายจะเป็นก้าวแรกที่สำคัญ แต่ไม่ใช่ทางออกเดียว จอห์น เกลนตัน จาก Riverside เตือนว่า “จำนวนคนไร้บ้านที่พุ่งสูงคือตัวชี้วัดของวิกฤติมนุษยธรรม” และเรียกร้องให้มีการลงทุนระยะยาวในระบบป้องกันและโครงสร้างที่อยู่อาศัยแบบยั่งยืน
ลอนดอนกับเป้าหมาย “ไร้คนไร้บ้านภายในปี 2030”
ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีลอนดอน ประกาศเป้าหมายที่จะยุติการนอนข้างถนนภายในปี 2573 โดยจะปรับปรุงบ้านว่างจำนวน 500 หลัง เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยถาวรสำหรับผู้ที่เสี่ยงกลายเป็นคนไร้บ้าน ซึ่งเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนแนวคิดจาก “การไล่” ไปสู่ “การให้โอกาส”
บทสรุป: จุดเริ่มต้นใหม่ที่ต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
การยกเลิกพระราชบัญญัติคนจรจัดปี 1824 เป็นการปิดฉากยุคแห่งความอยุติธรรมต่อคนไร้บ้าน แต่การต่อสู้กับวิกฤตินี้ยังไม่จบ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากรัฐบาล ท้องถิ่น และองค์กรภาคสังคม เพื่อสร้างระบบสนับสนุนที่ยั่งยืนในระยะยาว พร้อมการป้องกันการขับไล่ และเพิ่มที่อยู่อาศัยราคาเข้าถึงได้สำหรับทุกคน