Advertisement
Home Blog Page 3

RAID ใน Linux สำหรับมือใหม่: คำแนะนำและการใช้งานอย่างง่าย

0

บทนำ

RAID (Redundant Array of Independent Disks) เป็นเทคนิคการจัดการข้อมูลบนดิสก์หลายบิตเพื่อเพิ่มความเสถียรภาพและประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูลในระบบ Linux สำหรับมือใหม่ การเข้าใจ RAID จะช่วยให้คุณสามารถมอบความปลอดภัยและความเร็วให้กับระบบคอมพิวเตอร์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำความรู้จักกับ RAID

RAID เป็นเทคนิคการรวมกลุ่มฮาร์ดดิสก์หลายตัวเข้าด้วยกัน เพื่อให้ระบบสามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความปลอดภัยในการเก็บข้อมูลโดยการกระจายข้อมูลไปยังหลายดิสก์

ประเภทของ RAID ที่นิยมใน Linux

  • RAID 0: การแบ่งข้อมูลเป็นแผนกๆ แล้วเขียนบนดิสก์หลายตัว เพื่อเพิ่มความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูล แต่ไม่มีการสำรองข้อมูล
  • RAID 1: การทำสำเนาข้อมูลแบบเรียลไทม์ (Mirror) ทำให้ข้อมูลปลอดภัยในกรณีที่ดิสก์ใดดิสก์หนึ่งล้มเหลว
  • RAID 5: การกระจายข้อมูลและข้อมูล parity เพื่อความสมดุลระหว่างความเร็วและความปลอดภัย
  • RAID 10: การรวมกันของ RAID 0 และ RAID 1 เพื่อความเร็วและความปลอดภัยสูงขึ้น

วิธีตั้งค่า RAID ใน Linux สำหรับมือใหม่

การตั้งค่า RAID ใน Linux สามารถทำได้ผ่านเครื่องมือเช่น mdadm ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการ RAID อย่างง่ายและนิยมใช้ในชุมชน Linux สำหรับมือใหม่ ควรปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูล

ขั้นตอนการสร้าง RAID ด้วย mdadm

  • ติดตั้ง mdadm: คำสั่ง sudo apt-get install mdadm สำหรับ Ubuntu
  • เตรียมดิสก์สำหรับ RAID: ตรวจสอบดิสก์และเตรียมพร้อมสำหรับการสร้าง RAID
  • สร้าง RAID: ใช้คำสั่ง mdadm –create เพื่อสร้าง RAID ตามประเภทที่ต้องการ
  • ตรวจสอบสถานะ: ใช้คำสั่ง mdadm –detail /dev/md0 เพื่อเช็คสถานะของ RAID ที่สร้าง

ข้อดีและข้อควรระวังของ RAID ใน Linux

การใช้งาน RAID ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเร็วของข้อมูล แต่ก็มีข้อควรระวัง เช่น การสำรองข้อมูลเป็นประจำ และคู่มือการซ่อมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ใช้งานสามารถศึกษาจากเอกสารและเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ เช่น Linuxize หรือ TechiMint

สรุป

RAID ใน Linux เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ระบบคอมพิวเตอร์มีความเสถียร ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น มือใหม่ควรศึกษาวิธีการตั้งค่าและข้อควรระวังอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด

เมือง El Doro: คำถามที่ยังค้างคาเกี่ยวกับเมืองที่เฉพาะเจาะจงในประวัติศาสตร์

0

ความสงสัยเกี่ยวกับเมือง El Doro: เมืองที่ไม่มีหลักฐานชัดเจน

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อเมือง El Doro แต่ยังสงสัยว่าสถานที่แห่งนี้เป็นเมืองจริงหรือไม่

นักประวัติศาสตร์และนักวิจัยได้พยายามค้นหาเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ เพื่อยืนยันการมีอยู่ของเมืองนี้ แต่ข้อมูลที่พบยังไม่ชัดเจนเป็นที่แน่ชัด

การตรวจสอบหลักฐานและการวิจัยทางโบราณคดี

การขุดค้นทางโบราณคดีในพื้นที่ที่ถูกอ้างว่าเป็นเมือง El Doro ยังไม่พบหลักฐานที่แน่ชัด เช่น โบราณวัตถุหรือซากปรักหักพังที่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเมืองจริง

ทั้งนี้ นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าเมืองนี้อาจเป็นเพียงเมืองในตำนาน หรือเป็นชื่อที่ใช้แทนเมืองอื่นในยุคโบราณ

ความเป็นไปได้ของการสร้างเมืองในตำนาน

เมือง El Doro อาจถือเป็นเมืองในตำนานที่ถูกเล่าขานกันมานาน ซึ่งอาจถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องเตือนความทรงจำหรือเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม

ความเข้าใจนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานทางวรรณกรรมและตำนานในท้องถิ่น ที่บ่งชี้ว่าเมืองนี้อาจเป็นเพียงนิทานที่สร้างขึ้นเพื่อให้คนในชุมชนมีความภาคภูมิใจ

บทสรุปและข้อสรุปของนักวิชาการ

ในที่สุด นักวิชาการต่างเห็นพ้องกันว่า จนถึงปัจจุบัน ไม่มีหลักฐานที่สามารถยืนยันการมีอยู่จริงของเมือง El Doro ได้อย่างแน่ชัด

ความสำคัญของเมืองนี้ จึงอยู่ที่การเป็นสัญลักษณ์ในวรรณกรรม และความเข้าใจในมุมมองทางวัฒนธรรมมากกว่าเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในความเป็นจริง

เชื่อมั่นได้ว่าการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมอาจนำไปสู่ความรู้ใหม่ในอนาคต แต่ในปัจจุบัน เมือง El Doro จึงยังคงเป็นคำถามที่คำตอบยังคงคลุมเครือในหมู่นักวิชาการและผู้สนใจทั่วไป

อ้างอิงและแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

สามารถศึกษาข้อมูลรวมถึงบทความทางวิชาการเกี่ยวกับเมืองในตำนานและหลักฐานทางโบราณคดีได้จากเว็บไซต์ เช่น UNESCO ([URL]) และห้องสมุดออนไลน์ทางวิชาการต่าง ๆ

สรุปแล้ว ความสงสัยเกี่ยวกับเมือง El Doro ยังคงอยู่ในใจของนักเรียนและผู้สนใจ จนกว่าจะมีหลักฐานพิสูจน์ได้มากขึ้นในอนาคต

วิวจากแคลาย: ทำไมคนจำนวนมากเลือกเสี่ยงเดินเรือเล็กไปอังกฤษ

0

แนวทางของการอพยพ: ความหวังและความหวั่นไหวในใจของผู้เสี่ยง

ในยุคปัจจุบัน การอพยพเข้าสหราชอาณาจักรโดยใช้เรือเล็กหรือเสี่ยงกับอันตรายมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คนจำนวนมาก มองเห็น โอกาสทางเศรษฐกิจ และ ชีวิตที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องเผชิญกับ ความเสี่ยงและอันตราย ที่มากมายในระหว่างการเดินทาง ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้หลายคนเลือกเสี่ยง

แรงจูงใจของผู้เสี่ยง: การหนีจากความยากจนและการกดขี่ข่มเหง

คนส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจเสี่ยงเดินเรือเล็กไปอังกฤษ มักพบกับความยากจนและปัญหาทางสังคม ที่รุนแรงในบ้านเกิด พวกเขา หวังว่าจะได้รับ โอกาสทางการศึกษา และ งานทำที่มั่นคง ในประเทศใหม่ แต่เส้นทางนี้เต็มไปด้วยอันตรายและความลำบาก

ความเสี่ยงและอันตราย: อุบัติเหตุและการละเมิดสิทธิมนุษยชน

การเดินทางโดยเรือเล็กนั้นเต็มไปด้วยความเสี่ยงสูง อุบัติเหตุทางเรือ การจมน้ำ และ การแสวงหาผลประโยชน์จากพวกแรงงานที่ไม่ถูกกฎหมาย เป็นสิ่งที่พบได้มาก นอกจากนี้ ยังมีรายงาน การละเมิดสิทธิมนุษยชน และการค้ามนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการอพยพและการเดินทางผิดกฎหมาย

กลไกหนุนเสริม: ปัจจัยทางการเมืองและกฎหมายในประเทศต้นทางและปลายทาง

ขณะเดียวกัน นโยบายด้านการเมือง ของประเทศเจ้าบ้านและประเทศต้นทาง มีอิทธิพลต่อเส้นทางและจำนวนผู้เสี่ยงเดินเรือ ในปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ครอบคลุมไปถึง การปราบปรามกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ และ การเปลี่ยนแปลงนโยบายควบคุมการเข้าเมือง ซึ่งมีผลต่อความเสี่ยงและความยากลำบากของผู้เดินทาง

ผลกระทบของการอพยพเถื่อนต่อนโยบายและสังคมในอังกฤษ

ผู้ที่เดินทางเข้ามาโดยไม่มีเอกสารหรือผ่านเส้นทางผิดกฎหมาย มักเผชิญกับความท้าทายด้านกฎหมายและการเมือง เช่นเดียวกับ การบังคับใช้กฎหมายและรัฐมนตรี ที่เข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้ สังคมในอังกฤษต้องปรับเปลี่ยน นโยบายรับมือ และ กลยุทธ์การจัดการใช้คนผิดกฎหมาย

แนวทางและกลยุทธ์ในการรับมือกับวิกฤตการอพยพ

  • การสร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อลดการละเมิดสิทธิมนุษยชน
  • การป้องกันและแก้ไขปัญหาความยากจนในประเทศต้นทาง เพื่อหยุดการเดินเรือผิดกฎหมาย
  • พัฒนานโยบายและกลยุทธ์ด้านการรับมือกับการอพยพผิดกฎหมาย ทั้งในด้านกฎหมายและสังคม
  • ส่งเสริมการศึกษาความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมือง ให้แก่กลุ่มเปราะบาง

สรุป: ทำไมการเสี่ยงเดินเรือเล็กไปอังกฤษยังคงเป็นทางเลือกสุดท้าย

ในที่สุด การเสี่ยงเดินเรือเล็ก ไปยังอังกฤษนั้นเป็นทางเลือกสุดท้ายของผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงความยากจนและการกดขี่ข่มเหงในประเทศบ้านเกิด อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงและอันตรายที่เกิดขึ้นยังคงเป็นสิ่งที่ต้องเผชิญและต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ รัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ ควรทำงานร่วมกันเพื่อหยุดการละเมิดสิทธิมนุษยชนและลดความจำเป็นในการอพยพผิดกฎหมาย ด้วยการสร้างเสถียรภาพและความหวังให้กับชุมชนในประเทศต้นทาง

สำหรับผู้เสี่ยงเดินเรือ ควรพิจารณาทางเลือกที่ปลอดภัยและถูกกฎหมายมากขึ้น เพื่อปกป้องสิทธิในชีวิตและเสรีภาพของตนเอง ตลอดจนสร้างอนาคตที่ดีในประเทศของตนเอง ดูข้อมูลข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการลักลอบเข้าเมืองและผลกระทบในอังกฤษ

การผจญภัยในเมืองแห่งตำนาน: สำรวจความลับของเมืองทรอยและความทรงจำในประวัติศาสตร์กรีกโบราณ

0

ค้นพบเมืองทรอย แหล่งกำเนิดของตำนานและเรื่องเล่าในประวัติศาสตร์กรีกโบราณ

เมืองทรอยเป็นหนึ่งในเมืองโบราณที่มีชื่อเสียงและเต็มไปด้วยปริศนา ทางประวัติศาสตร์และตำนานที่เล่าขานกันมานานหลายพันปี ถูกยกย่องว่าเป็นเมืองแห่งความรัก การรบการวางแผนกลยุทธ์ รวมถึงการสืบสวนความจริงที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนดินของภูมิภาคนี้

ประวัติความเป็นมาของเมืองทรอย

เมืองทรอยมีอายุย้อนกลับไปประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล เป็นศูนย์กลางการค้าขายและวัฒนธรรมที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียไมเนอร์และยุโรป ซากเมืองนี้ได้ถูกค้นพบโดยนักโบราณคดีในศตวรรษที่ 19 และเป็นหลักฐานสำคัญที่สนับสนุนเรื่องราวในมหากาพย์อีเลียดของโฮเมอร์

ความเชื่อมโยงกับเรื่องราวในมหากาพย์อีเลียด

มหากาพย์อีเลียดเล่าเรื่องราวของสงครามเมืองทรอย ที่เริ่มจากการขโมยหญิงงาม แฮลเลนิก ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดสงครามระหว่างกรีกและเมืองทรอย เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความกล้าหาญ การวางแผนยุทธศาสตร์ และความซับซ้อนของมนุษย์ในสังคมโบราณ

การค้นพบและการศึกษาเมืองทรอยในยุคปัจจุบัน

นักโบราณคดีเช่น ฮีโรนิมัส โบรกเกล ได้ขุดค้นซากเมืองทรอยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1870 โดยพบว่ายังมีโครงสร้างต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ในสมัยก่อน การศึกษานี้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน ความเชื่อ วัฒนธรรม และความเชื่อทางศาสนาในยุคโบราณ

เทคนิคการขุดค้นและการวิเคราะห์ซากโบราณ

เทคนิคใหม่ๆ เช่น การใช้เรดาร์และโดรน ช่วยให้นักวิจัยสามารถสำรวจพื้นที่โดยไม่ต้องขุดลึกลงไปอย่างเสียเวลาและแรงงาน การวิเคราะห์จากเครื่องมือเหล่านี้ มีบทบาทสำคัญในการพิสูจน์ว่าซากเมืองนี้เป็นสถานที่เดียวกับที่อยู่ในตำนานหรือไม่

ความสำคัญของเมืองทรอยในด้านวัฒนธรรมและการเรียนรู้

เมืองทรอยไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและความกล้าในการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งความรู้สำคัญที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิต ศิลปะ และความเชื่อของชาวกรีกโบราณ นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับวรรณกรรม ศิลปะ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน

เมืองทรอยในมุมมองของการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์

ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมซากเมืองทรอยและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ได้ผ่านพิพิธภัณฑ์และแหล่งโบราณคดี ซึ่งส่งเสริมความเข้าใจและการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม การรักษาโบราณสถานและการบูรณะเป็นสิ่งสำคัญเพื่อคงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ต่อไป

สรุป: ความสำคัญของเมืองทรอยในยุคปัจจุบัน

เมืองทรอยเป็นมากกว่าซากโบราณ มันเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมาทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ การค้นพบและศึกษามันช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในอดีต และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไปในการเรียนรู้และอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่ Encyclopaedia Britannica – Troy และ History.com – Troy

เมือง El Doro: คำถามที่ยังค้างคาเกี่ยวกับเมืองที่เฉพาะเจาะจงในประวัติศาสตร์

0

ความสงสัยเกี่ยวกับเมือง El Doro: เมืองที่ไม่มีหลักฐานชัดเจน

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อเมือง El Doro แต่ยังสงสัยว่าสถานที่แห่งนี้เป็นเมืองจริงหรือไม่

นักประวัติศาสตร์และนักวิจัยได้พยายามค้นหาเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ เพื่อยืนยันการมีอยู่ของเมืองนี้ แต่ข้อมูลที่พบยังไม่ชัดเจนเป็นที่แน่ชัด

การตรวจสอบหลักฐานและการวิจัยทางโบราณคดี

การขุดค้นทางโบราณคดีในพื้นที่ที่ถูกอ้างว่าเป็นเมือง El Doro ยังไม่พบหลักฐานที่แน่ชัด เช่น โบราณวัตถุหรือซากปรักหักพังที่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเมืองจริง

ทั้งนี้ นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าเมืองนี้อาจเป็นเพียงเมืองในตำนาน หรือเป็นชื่อที่ใช้แทนเมืองอื่นในยุคโบราณ

ความเป็นไปได้ของการสร้างเมืองในตำนาน

เมือง El Doro อาจถือเป็นเมืองในตำนานที่ถูกเล่าขานกันมานาน ซึ่งอาจถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องเตือนความทรงจำหรือเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม

ความเข้าใจนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานทางวรรณกรรมและตำนานในท้องถิ่น ที่บ่งชี้ว่าเมืองนี้อาจเป็นเพียงนิทานที่สร้างขึ้นเพื่อให้คนในชุมชนมีความภาคภูมิใจ

บทสรุปและข้อสรุปของนักวิชาการ

ในที่สุด นักวิชาการต่างเห็นพ้องกันว่า จนถึงปัจจุบัน ไม่มีหลักฐานที่สามารถยืนยันการมีอยู่จริงของเมือง El Doro ได้อย่างแน่ชัด

ความสำคัญของเมืองนี้ จึงอยู่ที่การเป็นสัญลักษณ์ในวรรณกรรม และความเข้าใจในมุมมองทางวัฒนธรรมมากกว่าเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในความเป็นจริง

เชื่อมั่นได้ว่าการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมอาจนำไปสู่ความรู้ใหม่ในอนาคต แต่ในปัจจุบัน เมือง El Doro จึงยังคงเป็นคำถามที่คำตอบยังคงคลุมเครือในหมู่นักวิชาการและผู้สนใจทั่วไป

อ้างอิงและแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

สามารถศึกษาข้อมูลรวมถึงบทความทางวิชาการเกี่ยวกับเมืองในตำนานและหลักฐานทางโบราณคดีได้จากเว็บไซต์ เช่น UNESCO ([URL]) และห้องสมุดออนไลน์ทางวิชาการต่าง ๆ

สรุปแล้ว ความสงสัยเกี่ยวกับเมือง El Doro ยังคงอยู่ในใจของนักเรียนและผู้สนใจ จนกว่าจะมีหลักฐานพิสูจน์ได้มากขึ้นในอนาคต

ฮิมาลัยอุดมคติ: ความลึกลับโบราณของชองกริลาในตำนานสากล

0

คำนำ: แนวทางสู่ความลึกลับแห่งชองกริลา

ชองกริลาเป็นชื่อที่เต็มไปด้วยความลึกลับและนิยายในเรื่องราวของมณฑลสวรรค์บนโลกใต้ผืนฟ้า ซึ่งเป็นสถานที่ในความเชื่อที่สื่อถึงความสงบสุขและความสูงส่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

คำว่า “ชองกริลา” ถูกนำมาใช้ในหลายบริบท ทั้งในวรรณกรรม ศาสนา และวัฒนธรรม เพื่อแสดงถึงสัญลักษณ์ของความสุขนิรันดร์และความสมบูรณ์แบบ

ประวัติความเป็นมาของชองกริลา

ตามตำนานและบันทึกทางประวัติศาสตร์ ชองกริลาเป็นเมืองในหุบเขาหิมาลัย ซึ่งถูกมองว่าเป็นสวรรค์บนดิน มีความเชื่อว่าเป็นอาณาจักรยูโทเปียที่ซ่อนอยู่ในภูเขาสูงอย่างเทือกเขาแอนดีสและหิมาลัย

ประวัติศาสตร์ของชองกริลา ยังครอบคลุมถึงการเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธและเต๋า ซึ่งมีการแพร่กระจายและเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออกเฉียงใต้

ความเชื่อและตำนานในยุคโบราณ

เป็นที่เชื่อกันว่าชองกริลาเป็นแผ่นดินแห่งสันติภาพและปัญญา ผู้เล่าเรื่องต่างกล่าวถึงความเป็นมาของชองกริลาในฐานะอาณาจักรที่เต็มไปด้วยความรู้และสมบัติทางจิตวิญญาณ

ในวรรณกรรมและศาสนา มีการกล่าวถึงชองกริลาในบริบทของสถานที่แห่งความรู้แจ้ง และเป็นเป้าหมายในการแสวงหาของนักเดินทางและนักธรรม ที่ต้องการค้นพบความลับของชีวิตและจิตวิญญาณ

สัญลักษณ์และความเข้าใจในปัจจุบัน

ในสมัยปัจจุบัน ชองกริลาได้รับการปรับเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ความลึกลับ และความสงบสุขในใจของผู้คนทั่วโลก หลายคนเชื่อว่ายังมีเมืองแห่งสวรรค์นี้ซ่อนอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย

การศึกษาทางโบราณคดีและภารกิจของนักสำรวจต่างๆ ยังไม่สามารถยืนยันความเป็นจริงของชองกริลาได้อย่างแน่ชัด แต่ก็ยังคงเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญในด้านวรรณกรรมและจิตวิญญาณ

บทสรุป: ความหมายที่ซ่อนอยู่ในความลึกลับ

ชองกริลายังคงเป็นสัญลักษณ์ของมนุษย์ที่แสวงหาความสุขนิรันดร์ ความเข้าใจในความรู้และจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นความหวังอันสูงสุดของมนุษยชาติในทุกยุคทุกสมัย

แม้จะไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แน่ชัดว่าชองกริลาเคยมีอยู่จริง แต่ความฝันและความเชื่อในเมืองสวรรค์นี้ก็ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนค้นหาและแสวงหาความหมายของชีวิตในทุกวันนี้

สำหรับผู้สนใจ ควรศึกษาจากแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือ เช่น Encyclopedia Britannica หรือหนังสือแนววิจัยเกี่ยวกับความเป็นจริงและตำนานของชองกริลา เพื่อเข้าใจความเป็นมาอย่างลึกซึ้งและรอบด้าน

การเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างแมนเชสเตอร์และกรุงเทพฯ ในฤดูหนาวนี้: โอกาสใหม่สำหรับนักเดินทางและเศรษฐกิจไทย-อังกฤษ

0

การเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างแมนเชสเตอร์และกรุงเทพฯ เป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการบินและเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและประเทศอังกฤษ ซึ่งจะมีผลต่อด้านการท่องเที่ยว การค้า และวัฒนธรรมในอนาคต

การประกาศเปิดให้บริการสายการบินตรงจากสนามบินแมนเชสเตอร์ (Manchester Airport) ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi Airport) ในช่วงฤดูหนาวนี้ นับเป็นข่าวดีสำหรับนักเดินทางทั้งไทยและอังกฤษที่ต้องการประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบาย โดยไม่ต้องต่อเครื่องหรือเปลี่ยนเส้นทาง.

สายการบิน Norse Atlantic Airways ที่รับผิดชอบในการดำเนินการนี้ ได้ประกาศว่าจะเริ่มให้บริการในฤดูหนาวปีนี้ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงสองประเทศผ่านสายการบินตรง นอกจากนี้ การเปิดเส้นทางนี้ยังจะช่วยสนับสนุนธุรกิจและการท่องเที่ยวในทั้งสองประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

แนวโน้มและผลกระทบของเส้นทางบินตรงต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

การเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างแมนเชสเตอร์และกรุงเทพฯ นอกจากจะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทาง แล้ว ยังมีผลต่อการส่งเสริมการลงทุน การค้า และการท่องเที่ยวในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศอังกฤษและประเทศไทย

ในด้านการท่องเที่ยว นักเดินทางจากอังกฤษจะสามารถเดินทางเข้าไทยได้โดยสะดวกขึ้น ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เช่น กลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงการแพทย์ที่สนใจประเทศในเอเชีย

กลยุทธ์ของสายการบินและสภาพแวดล้อมทางการบิน

สายการบินที่รับผิดชอบเปิดเส้นทางนี้ ได้วางกลยุทธ์เน้นความสะดวกสบายและบริการที่เหนือชั้น รวมถึงการปรับตารางบินให้เหมาะสมกับการเดินทางระยะยาวและความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวในทั้งสองประเทศ

อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายด้านสภาพแวดล้อมทางการบิน เช่น ความผันผวนของราคาน้ำมันและความเปลี่ยนแปลงของกฎหมายด้านการบินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

บทสรุปและโอกาสในอนาคต

การเปิดเส้นทางบินตรงจากแมนเชสเตอร์สู่กรุงเทพฯ เป็นก้าวสำคัญที่น่าจับตามองสำหรับนักเดินทางและภาคธุรกิจทั้งในไทยและอังกฤษ โอกาสในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมในอนาคตจะแข็งแกร่งมากขึ้นอย่างแน่นอน

ในสรุป การประกาศนี้ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จด้านการพัฒนาการบินเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแนวคิดในการสร้างความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อระหว่างสองประเทศ อันเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนในทั้งสองฝั่งแห่งอนาคต

เพื่อความเข้าใจเพิ่มเติม สามารถศึกษาแหล่งข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการของสายการบิน Manchester Airport และ สนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงข่าวสารต่างประเทศที่เชื่อถือได้ในด้านการพัฒนาเส้นทางบินและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

การเปิดเผยความลับของอาณาจักรโบราณแห่งเปอร์เซีย: เมืองเปอร์ซีโพลิสแห่งความรุ่งเรืองในอดีต

0

บทคัดย่อ

เปอร์เซียเป็นอาณาจักรโบราณที่มีประวัติศาสตร์อันลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม การเมือง และอำนาจในอดีต ซึ่งเมืองเปอร์ซีโพลิสเป็นศูนย์กลางหลักของอาณาจักรนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรเปอร์เซีย ความรู้เกี่ยวกับเปอร์ซีโพลิสไม่เพียงแต่เปิดเผยถึงความเจริญทางด้านวัฒนธรรมและศิลปะเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความล้ำหน้าทางด้านการปกครองและการบริหารของอาณาจักรนี้อีกด้วย

ประวัติความเป็นมาของเปอร์ซีโพลิส

เปอร์ซีโพลิสก่อตั้งขึ้นในช่วงประมาณครศ. 500 ก่อนคริสตกาล โดยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเปอร์เซียที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่และอิทธิพลที่ครอบคลุมพื้นที่หลายแผ่นดิน ลูกหลานของอาณาจักรเปอร์เซียได้สร้างความเจริญในหลายด้าน เช่น การดำเนินการเมือง ระบบการบริหาร ทางด้านวัฒนธรรมและศิลป์

สถาปัตยกรรมและศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์

เมืองเปอร์ซีโพลิสโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานความงามและความแข็งแกร่งอย่างลงตัว องค์ประกอบสถาปัตยกรรมหลักประกอบด้วยวิหาร ตึกหินอ่อน และประตูทางเข้าใหญ่ที่ประดับด้วยการแกะสลักอย่างประณีต ศิลปะในยุคเปอร์เซียแสดงออกถึงความเชื่อและวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายและซับซ้อน

ระบบการเมืองและการปกครองในเปอร์เซียโบราณ

อาณาจักรเปอร์เซียภายใต้การปกครองของกษัตริย์อาณาจักรนี้มีการวางระบบการเมืองแบบเผด็จการ โดยกษัตริย์ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของเทพเจ้าในการปกครอง ระบบบริหารจัดการเมืองอาณาจักรรวบรวมความรู้ด้านการจัดการชุมชนและการขยายอาณาเขตอย่างเป็นระเบียบ เพื่อเสริมสร้างอธิปไตยและความมั่นคงของอาณาจักร

ความรู้และวัฒนธรรมของเปอร์เซีย

ในด้านวัฒนธรรมและความรู้ เปอร์เซียเป็นแหล่งของประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ วิชาการ และศิลปวัฒนธรรม เช่น ศิลปะการเขียน การสร้างภาพจิตรกรรม และแนวคิดด้านปรัชญา และธรรมชาติ ที่สอดคล้องกับความเชื่อและความศรัทธาของชาวเปอร์เซีย

สัญลักษณ์และความสำคัญของเมืองเปอร์ซีโพลิสในยุคปัจจุบัน

เปอร์ซีโพลิสได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี ค.ศ. 1979 เนื่องจากเป็นแหล่งโบราณสถานที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรเปอร์เซียในอดีต นักวิชาการและนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างให้ความสนใจในความงดงามและความสมบูรณ์ของเมืองนี้

สรุป: ความลับอันน่าค้นพบของอาณาจักรโบราณเปอร์เซีย

เปอร์เซียเป็นอาณาจักรโบราณที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการบริหาร การสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรม และศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเมืองเปอร์ซีโพลิสเป็นสัญลักษณ์สำคัญของความรุ่งเรืองนี้ ความรู้และประวัติศาสตร์ของอาณาจักรนี้ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ในการศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ในอดีต

คำถามที่ยังคงเป็นปริศนา: หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ยืนยันหรือปฏิเสธความจริงของการหยั่งรู้ในพระคัมภีร์เกี่ยวกับความทุกข์ทรมานแห่งการอพยพ

0

บทนำ: ความเชื่อและความสงสัยในเรื่องความเป็นจริงของความทุกข์ทรมานในพระคัมภีร์

พระคัมภีร์เป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุนับพันปี ซึ่งบันทึกเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของชาวอิสราเอล และได้ฝากคำถามถึงนักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดี และนักเทววิทยาเกี่ยวกับความถูกต้องและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ของเหตุการณ์ในอดีตที่ระบุในพระคัมภีร์ เช่น ความทุกข์ทรมานในช่วงการอพยพออกจากอียิปต์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ความเจ็บปวดสิบประการ” หรือ “สิบพิพากษา”.

ความเชื่อและความพิสูจน์ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการอพยพของชาวอิสราเอล

หลากหลายหลักฐานจากโบราณคดีและประวัติศาสตร์ได้ถูกนำมาใช้เพื่อค้นหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ของการอพยพจากอียิปต์ ซึ่งนักวิชาการบางกลุ่มเชื่อว่าข้อความในพระคัมภีร์อาจมีรากฐานอยู่ในเหตุการณ์จริงในอดีต เช่น หลักฐานทางโบราณสถานและจารึกที่พบในคิวบา บางชิ้นบ่งชี้ว่าอิสราเอลเคยอาศัยอยู่ในพื้นที่อียิปต์เป็นเวลานาน แต่ก็ยังมีความขัดแย้งและไม่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าเหตุการณ์ในพระคัมภีร์เป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์หรือไม่.

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนหรือคัดค้านเหตุการณ์ในพระคัมภีร์

นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยบางกลุ่มได้พยายามหาหลักฐานทางฟิสิกส์และเคมีที่สนับสนุนความเป็นไปได้ของปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ เช่น การอธิบายปรากฏการณ์ดาวตก สภาวะอากาศสุดแสนรุนแรง หรือการระเบิดของสิ่งมีชีวิตในทะเลสาบที่อาจส่งผลให้เกิดความทุกข์ทรมานหลายประการ. อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในด้านนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงและไม่มีการค้นพบที่ยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าเหตุการณ์เหล่านั้นเป็นความจริงทางธรรมชาติ.

บทบาทของการวิเคราะห์ธรณีวิทยาและนิรุกติศาสตร์ในศึกษาเหตุการณ์ของพระคัมภีร์

นักธรณีวิทยาและนักภาษาศาสตร์พยายามแปลความหมายเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ผ่านหลักฐานทางธรรมชาติและภาษา ซึ่งช่วยให้เข้าใจแม้แต่คำอธิบายที่ดูเหมือนขัดแย้งกับหลักวิทยาศาสตร์ เช่น การใช้คำอธิบายเกี่ยวกับภัยธรรมชาติในบริบททางโบราณศาสตร์ เป็นต้น. การวิเคราะห์เหล่านี้ นำไปสู่การตั้งสมมุติฐานใหม่ ๆ และการศึกษาข้อเท็จจริงในบริบทของวัฒนธรรมและภูมิประเทศของยุคโบราณ.

ความหมายในเชิงวิทยาศาสตร์ของหลักฐานในปัจจุบันและแนวทางในอนาคต

ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถยืนยันเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ได้อย่างสมบูรณ์ แต่การศึกษายังคงดำเนินต่อไป ด้วยเทคโนโลยีและวิธีการศึกษาที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการค้นพบทางโบราณคดีที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในเชิงลึกของเหตุการณ์ในยุคโบราณ ซึ่งอาจนำไปสู่การเปิดเผยข้อเท็จจริงมากขึ้นในอนาคต.

สรุป: ความเชื่อและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์—คำถามที่ยังไม่สิ้นสุด

ในที่สุด, ความเป็นจริงของเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ เช่น ความทุกข์ทรมานในยุคการอพยพ ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่ โดยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และโบราณคดีอาจสนับสนุนบางส่วน แต่ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบแน่ชัดได้. สิ่งที่ยังคงเป็นสิ่งสำคัญคือ การเปิดกว้างในการศึกษาค้นคว้าและเคารพในความเชื่อที่หลากหลายของมนุษย์ รวมถึงการมองเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ในบริบทของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่กว้างขึ้น. สำหรับผู้สนใจศึกษาเรื่องนี้ ควรอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น Encyclopaedia Britannica – The Exodus และ History.com – The Biblical Exodus เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด

ย้อนรอยรากเหง้าจักรวรรดิเปอร์เซีย สู่ความขัดแย้งอิหร่านยุคใหม่: เมื่ออดีตสะท้อนปัจจุบัน

0

เมื่อหันกลับมามองภูมิภาคตะวันออกกลาง หนึ่งในประเทศที่ถูกจับตามองอย่างมากในด้านการเมืองและความขัดแย้งระหว่างประเทศ คือ ‘อิหร่าน’ แต่แท้จริงแล้วรากเหง้าความคิด อัตลักษณ์ และจุดยืนในเวทีโลกของอิหร่านยุคปัจจุบันมีเส้นสายโยงใยลึกซึ้งถึงอารยธรรมเปอร์เซียโบราณ หากมองอิหร่านวันนี้โดยตัดประวัติศาสตร์ออกไป อาจเหมือนอ่านหนังสือเพียงบทเดียว การเข้าใจอิหร่านต้องย้อนกลับไปเข้าใจจิตวิญญาณเปอร์เซียที่หยั่งรากมาตั้งแต่กว่า 2,500 ปีก่อน

ภาษามรดกโบราณกับตัวตนร่วมสมัย

อิหร่านในวันนี้ยังคงใช้ภาษาเปอร์เซีย หรือ ‘ฟาร์ซี’ ซึ่งแตกต่างจากภาษาอาหรับรอบข้าง ภาษานี้ไม่ใช่แค่เพียงทางการสื่อสาร แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิและจิตสำนึกที่ชาวอิหร่านมีต่อการสืบทอดอารยธรรมเก่าแก่ นี่คือป้อมปราการแรกที่ปกป้องอิหร่านจากแรงดึงดูดของวัฒนธรรมต่างชาติ ทำให้อิหร่านมีอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่แข็งแกร่ง ความภาคภูมิใจเช่นนี้ยังสอดแทรกไปถึงแนวคิดการเมืองและทัศนคติต่อโลกภายนอก เป็นผลพวงทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อท่าทีในความขัดแย้งระหว่างประเทศอยู่เสมอ

ย้อนอดีตไปยังยุคของจักรวรรดิอาคีเมนิด ฟาโรห์ ไซรัสมหาราชได้วางรากฐานการปกครองที่เปิดกว้างและยืดหยุ่น เชื้อเชิญหลากหลายเผ่าพันธุ์ให้มารวมกันในจักรวรรดิแห่งนี้ การเน้นความหลากหลายและความอดทนต่อศาสนาต่าง ๆ กลายเป็นจิตวิญญาณหลักที่อยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ แต่ขณะเดียวกันยังคงรักษาแก่นร่วมใจเปอร์เซียอย่างเหนียวแน่น เงาอดีตเช่นนี้ยังปรากฏในยุทธศาสตร์การต่อรองและประนีประนอมของอิหร่านในเวทีการเมืองสมัยใหม่ เพียงแต่ในบริบทยุคใหม่ ความเปิดกว้างนั้นกลับต้องต่อสู้กับแรงกดดันและความหวาดระแวงจากโลกตะวันตกอย่างเลี่ยงไม่ได้

ศรัทธากับอำนาจ: เมื่อศาสนาเป็นอาวุธและโล่ห์

หลังการล่มสลายของจักรวรรดิเปอร์เซีย อิหร่านได้เปลี่ยนผ่านจากศาสนาโซโรอัสเตอร์มาสู่ศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะการรับนิกายชีอะห์มาเป็นหลัก มีการกล่าวว่านี่คือการดัดแปลงศาสนาใหม่ให้สอดคล้องกับตัวตนเปอร์เซียดั้งเดิมมากกว่าจะเป็นการสูญเสียอัตลักษณ์ จุดตัดสำคัญนี้ทำให้ศาสนาและอำนาจทางการเมืองของอิหร่านกลายเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออก ระบบผู้นำสูงสุดทางศาสนาในรัฐอิหร่านปัจจุบัน ไม่ได้เป็นเพียงปรากฏการณ์ร่วมสมัย แต่สืบสานรูปแบบการปกครองที่เชื่อมโยงกับจิตวิญญาณบรรพบุรุษโดยตรง

ในอีกด้านหนึ่ง โลกตะวันตกอาจมองบทบาทของศาสนาในอิหร่านว่าเป็นอุปสรรคต่อความเจริญทางประชาธิปไตย แต่หากวิเคราะห์ในเวทีท้องถิ่น บทบาทของผู้นำทางศาสนาในอิหร่านเป็นการสร้างความมั่นคงและเอกภาพภายในที่สำคัญอย่างยิ่ง การคงโครงสร้างเช่นนี้ เน้นย้ำว่าศรัทธาไม่ใช่เพียงเครื่องมือสร้างความชอบธรรมเท่านั้น หากแต่เป็นแหล่งพลังงานทางสังคมที่สร้างมวลรวมทางการเมืองให้รัฐอิหร่านต่อรองและยืนหยัดบนเวทีโลกได้อย่างคาดไม่ถึง

ภูมิปัญญาโบราณกับภาพลักษณ์ ‘สายกลางที่แข็งแกร่ง’

หากย้อนกลับไปดูต้นกำเนิดของเปอร์เซีย จะพบว่าความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมนี้เกิดจากความสมดุลแห่งพลัง ไม่ว่าจะเป็นด้านการปกครอง ความคิดสร้างสรรค์ หรือการสื่อสารกับคนต่างวัฒนธรรม อิหร่านยุคใหม่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ของ ‘สายกลางที่แข็งแกร่ง’ ไว้ในหลายแง่มุม แม้เผชิญแรงกดดันจากนานาประเทศ แต่ยังเลือกต่อรองอย่างชาญฉลาด หยิบใช้ทั้งศาสตร์การทูตและแผนการเมืองอย่างช่ำชอง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่านี่คือ ‘รอยต่อของอดีตและปัจจุบัน’ ที่ทำให้อิหร่านอยู่รอดในโลกที่ซับซ้อนเช่นนี้

ในความขัดแย้งระดับภูมิภาคที่อิหร่านเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรณีความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ หรือสถานการณ์ซีเรียและอิรัก เห็นได้ชัดว่าความคิดของผู้นำอิหร่านได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทเรียนครั้งอดีตกาล พวกเขาต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความปกป้องอัตลักษณ์ ความอยู่รอดทางการเมือง และการธำรงอิทธิพลต่อภูมิภาคอย่างยืนนาน คำถามสำคัญคือ ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงทุกวินาที อิหร่านจะสามารถรักษาจุดสมดุลอันบอบบางนี้ไปได้นานแค่ไหน

ท้ายที่สุด ความเข้าใจเกี่ยวกับอิหร่านโดยมองผ่านสายตาของอดีตเปอร์เซีย คือการตระหนักว่า สังคมนี้ไม่ได้ถูกขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว แต่อาศัยความภาคภูมิแห่งบรรพบุรุษและความเชื่อมั่นในตัวตนอย่างแน่นแฟ้น การแปลความหมายของประวัติศาสตร์ลงในการดำเนินนโยบายและปฏิบัติการในเวทีโลก จึงเป็น ‘สูตรผสมเฉพาะตัว’ ที่ทำให้ทุกการต่อสู้และทุกกลยุทธ์ของอิหร่าน เต็มไปด้วยความลุ่มลึกและยากจะคาดเดา

บทสรุปสำคัญก็คือ อิหร่านไม่ได้เพียงแค่เป็นผู้เล่นในกระดานการเมืองตะวันออกกลาง แต่ยังเป็น ‘ผู้สืบทอดจิตวิญญาณเปอร์เซีย’ ที่หล่อหลอมความซับซ้อนทางวัฒนธรรมและพลังต่อรองมานับพันปี หากจะเข้าใจเจตจำนงและแรงขับภายในของอิหร่านในวันนี้ จำเป็นต้องฟังเสียงก้องจากอดีตให้ดังพอ ๆ กับเสียงปืนในสนามรบแห่งปัจจุบัน เพราะบ่อยครั้ง ‘อดีต’ นั้นเองที่เป็นเครื่องมือสำคัญ ในการกำหนดอนาคตของประเทศนี้