ชีวิตที่เปราะบาง แรงงานแบบกิ๊กหรือ Gig Work ในอังกฤษกับความท้าทายที่มากกว่าแค่เงินรายวัน

0
87
Advertisement

เมื่ออัลกอริทึ่มไม่ยุติธรรมทั้งกับลูกจ้าง…และเจ้าของร้าน

Gig worker
เมื่ออัลกอริทึ่มไม่ยุติธรรมทั้งกับลูกจ้าง…และเจ้าของร้าน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การทำงานแบบ “กิ๊ก” หรือ Gig Worker ซึ่งหมายถึงการรับจ้างผ่านแพลตฟอร์มชั่วคราว เช่น Uber, Deliveroo, Just-Eat หรือบริการส่งอาหารต่าง ๆ กลายเป็นทางเลือกหลักของแรงงานกลุ่มหนึ่งในสหราชอาณาจักร หลายคนเชื่อว่าการเป็นแรงงานกิ๊กจะให้อิสรภาพและรายได้ที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ทว่าน้อยคนนักที่จะพูดถึงความเป็นจริงอันโหดร้ายเบื้องหลังหน้าม่านของโลกงานยุคใหม่ที่คนเหล่านี้ต้องเผชิญอยู่ในแต่ละวัน แต่ชีวิตบนทางเลือกนี้ ไม่ได้สวยงามอย่างที่โฆษณาว่า “อิสระ” หรือ “เป็นนายตัวเอง”
ตรงกันข้าม มันคือ ชีวิตที่เปราะบางยิ่งกว่าเดิม ที่เสี่ยงต่อการถูกแทนที่ ถูกตัดคะแนน ถูกลดงาน และถูกเอาเปรียบ…แบบไม่มีสิทธิ์พูด

แรงงานกิ๊ก เหนื่อยแต่ไร้หลักประกัน

การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม และผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้ตลาดแรงงานอังกฤษเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน แรงงานจำนวนมากจำใจเข้าสู่การจ้างงานแบบกิ๊กเพราะหางานประจำไม่ได้ แม้งานเหล่านี้จะมอบอิสระในแง่เวลา แต่ข้อเท็จจริงคือพวกเขาต้องทำงานหลายชั่วโมงต่อวัน จึงจะพอหาเลี้ยงชีพได้ วันพักผ่อนกลายเป็นสิ่งหรูหราที่หาได้ยากในชีวิตจริง

เงื่อนไขการทำงานของแรงงานกิ๊กในอังกฤษดูเหมือนไม่ได้ต่างจากประเทศกำลังพัฒนามากนัก พวกเขาไม่มีหลักประกันสุขภาพจากองค์กร ไม่มีค่าลาป่วยหรือเงินชดเชยกรณีว่างงาน ทั้งยังขาดหลักประกันเงินบำนาญสำหรับชีวิตหลังเกษียณ หลายคนต้องรับความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือปัญหาสุขภาพเอง หากเกิดปัญหาก็ไม่มีมาตรการช่วยเหลือจากแพลตฟอร์มหรือรัฐอย่างจริงจัง การอยู่ในสังคมที่มั่งคั่งเช่นสหราชอาณาจักร แต่ละวันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนที่กดทับจิตใจ

ในขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมของอังกฤษดูจะฟื้นตัว แรงงานกิ๊กกลับเดินหน้าเข้าสู่สภาวะหมดไฟ รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงตกต่ำ บางวันต้องวิ่งส่งงานข้ามเมืองแต่สุดท้ายกลับกำไรน้อยกว่าค่าใช้จ่าย ไม่ใช่แค่ค่าแรงต่ำ แต่ยังต้องสู้กับค่าเช่าบ้านที่พุ่งสูง ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนรถยนต์หรืออุปกรณ์ที่ใช้ทำงานซึ่งส่วนใหญ่ต้องรับผิดชอบเอง แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีวันหยุดพัก ไม่มีสิทธิประโยชน์แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างแรงงานประจำ

สงครามราคาและการแข่งกันเอง

แรงงานแบบกิ๊กหมายถึงงานระยะสั้น งานชิ้นต่อชิ้นที่จ่ายเงินต่อครั้ง เช่น ส่งอาหาร ขับรถ ส่งพัสดุ ซึ่งในทางกฎหมายพวกเขาไม่ได้ถูกจัดว่าเป็น “ลูกจ้าง” แต่เป็น ผู้รับงานอิสระ (self-employed) ทำให้พวกเขาไม่ได้รับสิทธิพื้นฐาน ชีวิตของพวกเขาผูกติดกับอัลกอริทึ่มที่มองไม่เห็นหน้า
หากระบบมองว่า “ส่งช้า” หรือ “ได้รับรีวิวแย่” อัลกอริทึ่มสามารถลดปริมาณงานที่ได้รับทันที โดยไม่ต้องมีคำเตือนล่วงหน้า

หนึ่งในปัญหาสำคัญคือการที่แพลตฟอร์มใหญ่ ๆ ใช้การควบคุมราคาผ่านอัลกอริธึม ราคาค่าจ้างต่อชิ้นถูกตั้งไว้ต่ำเพื่อดึงดูดลูกค้า ทั้งยังกีดกันไม่ให้คนงานต่อรองค่าตอบแทนหรือรวมตัวเจรจาได้เต็มที่ คนที่เพิ่งเริ่มใหม่จึงต้องแข่งกับผู้ที่อยู่มาก่อน ไม่ต่างอะไรกับสนามรบที่ผู้แพ้ต้องออกจากวงจรไป สิ่งนี้นำไปสู่ความเปราะบางทางรายได้ที่คนงานกลุ่มนี้ต้องแบกรับทุกวัน

สิ่งที่น่ากังวลอีกอย่างคือสังคมหรือรัฐบาลยังหาแนวทางแก้ไขที่สมดุลไม่ได้ หลายองค์กรเรียกร้องให้ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือแรงงานกิ๊ก เช่น การบังคับให้แพลตฟอร์มจ่ายค่าลาป่วยหรือประกันสุขภาพ แต่ผู้มีอำนาจส่วนหนึ่งยังลังเลหรือเกรงว่าจะกระทบธุรกิจใหม่ๆ ที่สร้างแรงงานเป็นกลุ่มใหญ่ แม้จะมีบางคดีความที่ศาลอังกฤษตัดสินให้แรงงานกิ๊กบางส่วนได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น แต่โดยภาพรวมปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขเป็นระบบ

มุมหนึ่งของปัญหานี้คือการรับรู้ของสังคม แม้คนทั่วไปจะรู้สึกเห็นใจแรงงานกิ๊ก แต่ก็ยังเลือกใช้บริการแพลตฟอร์มเหล่านี้เพราะสะดวกและราคาถูก ในฐานะผู้ใช้บริการ หลายคนอาจหลงลืมไปว่าเบื้องหลังทั้งความรวดเร็วและความถูกคือความเหนื่อยล้า หนี้สิน และชีวิตที่ไร้ความแน่นอนของผู้ส่งอาหารหรือคนขับรถที่เราพบเห็นทุกวัน การเปลี่ยนความคิดแบบนี้อาจนำไปสู่การเรียกร้องทางสังคมที่มากขึ้นได้ในอนาคต

เมื่อเจ้าของร้านก็ถูกดูดพลัง

ไม่ใช่แค่คนส่งอาหารที่รู้สึกว่าโดนระบบเอาเปรียบเจ้าของร้านอาหารไทยจำนวนมากในอังกฤษ ก็เจอกับดักเดียวกัน ในตอนแรก แพลตฟอร์มเสนอให้เข้าร่วมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมากนักแต่เมื่อลูกค้าเริ่มติดกับแพลตฟอร์มนั้น การตลาดกลายเป็นของแอป ไม่ใช่ของร้านสุดท้ายร้านต้อง “จ่ายค่าคอมมิชชั่นสูงถึง 30–35%” ต่อออเดอร์

🔸 ขายของ 20 ปอนด์ เหลือกำไรไม่ถึง 3 ปอนด์

🔸 หากลูกค้าคลิก “ผิดหวัง” ร้านก็อาจถูกลดลำดับการมองเห็น

🔸 ไม่มีอำนาจต่อรองกับรีวิวหรือเงื่อนไขการตลาดที่แพลตฟอร์มเปลี่ยนเมื่อไรก็ได้

ทางออกอยู่ที่ไหน?

เจ้าของร้านรวมกลุ่มต่อรอง
ร้านค้าควรรวมตัวกันสร้าง “กลุ่มพันธมิตรร้านอาหาร” เพื่อเจรจาต่อรองคอมมิชชั่น หรือแม้แต่พัฒนาแอปสั่งอาหารชุมชนเอง

ส่งเสริมลูกค้าใช้ระบบตรงกับร้าน
ถ้าร้านมีระบบสั่งอาหารหรือแชทตรง (เช่นผ่าน Line, Facebook, WhatsApp หรือเว็บไซต์ของร้าน) ควรให้โปรโมชั่นพิเศษกับลูกค้าที่ไม่สั่งผ่านแอป เพื่อช่วยให้ร้านมีรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

ใช้แพลตฟอร์มท้องถิ่นหรือแฟร์กว่า
ในบางเมืองของอังกฤษมีแอปสั่งอาหารที่เก็บค่าคอมต่ำกว่าหรือดำเนินการแบบ “non-profit” เช่น Foodstuff, Big Eats UK — ร้านค้าควรสำรวจทางเลือกเหล่านี้


ในวันที่ทางเลือกลดลง เส้นทางต้องชัดเจน

ชีวิตของแรงงานกิ๊กในอังกฤษตอนนี้จึงเหมือนอยู่กลางทางแยก ระหว่างอิสรภาพในระบบทุนนิยมใหม่กับความจำยอมและความเปราะบางที่ลึกซึ้งกว่าที่ใครหลายคนคิด ความอยู่รอดไม่ใช่แค่เรื่องของรายวันอีกต่อไป แต่คืออนาคตและคุณภาพชีวิตในระยะยาว หากสังคมยังไม่ได้ตระหนักปัญหานี้อย่างจริงจัง แรงงานกลุ่มนี้อาจกลายเป็นผู้ถูกทิ้งกลางกระแสเทคโนโลยีที่ไร้หัวใจ

ท้ายที่สุด ปัญหานี้อาจต้องการการปรับตัวของทุกฝ่าย ไม่ใช่แค่ภาครัฐหรือบริษัทแพลตฟอร์มเท่านั้น แต่ผู้บริโภคก็ต้องตระหนักและร่วมผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลง การสร้างมาตรฐานความเป็นธรรมให้กับแรงงานกิ๊กจะช่วยสร้างสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจและความเป็นมนุษย์ในระบบแรงงานยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง หากเรายังคงเพิกเฉย เสน่ห์ของงานอิสระอาจกลายเป็นกับดักใหญ่ที่ขังคนทำงานไว้กับความไม่แน่นอนตลอดไป

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.